มุสลิมะฮ์ท่านนี้ก็คือ ฟิฎเฎาะฮ์ ทาสีของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ ซึ่งตำราชั้นนำต่างระบุว่านางพูดคุยด้วยโองการกุรอานนานหลายปี.
ตำราที่เชื่อถือได้ต่างระบุว่า ฟิฎเฎาะฮ์ ทาสีของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ และมารดาของวะฮับ บิน อับดุลลอฮ์ คือสุภาพสตรีที่ตอบทุกคำถามด้วยโองการกุรอานนานกว่ายี่สิบปี ดังกรณีตัวอย่างที่รายงานจากตำราบิฮารุลอันวารต่อไปนี้:
อบุลกอซิม กุชัยรี อ้างคำพูดของเพื่อนในหนังสือของตนว่า: “ฉันท่องไปในทะเลทรายกระทั่งได้พบสตรีนางหนึ่ง จึงถามนางว่าเธอคือใคร?
สตรี: “และจงกล่าวสลาม และเจ้าจะรู้ในไม่ช้า”[1]
ฉันจึงกล่าวสลามนางแล้วถามว่า: เธอมาทำอะไรที่นี่เล่า?
สตรี: “และผู้ที่พระองค์นำทาง จะไม่มีใครชักนำให้หลงทาง”[2]
ฉัน: เธอเป็นคนหรือญินกันแน่?
สตรี: “โอ้พงศ์พันธุ์ของอาดัมเอ๋ย พึงประดับประดาตัวสูเจ้า....”[3]
ฉัน: เธอเดินทางมาจากใหน?
สตรี: “…จากถิ่นอันไกลโพ้น”[4]
ฉัน: แล้วเธอจะเดินทางไปที่ใด?
สตรี: “และเป็นสิทธิของพระองค์เหนือประชาชาติที่จะพวกเขาจะประกอบพิธีฮัจย์”[5]
ฉัน: เธอเดินทางมากี่วันแล้ว?
สตรี: “เราได้สร้างชั้นฟ้าและผืนดินในหกวัน”[6]
ฉัน: “เธออยากทานอะไรหรือเปล่า?
สตรี: “เรามิได้กำหนดให้พวกเขาเป็นเรือนร่างที่ไม่บริโภค”[7]
ฉันจึงให้อาหารนางแล้วบอกนางว่า: ช่วยเดินให้เร็วกว่านี้ได้ไหม?
สตรี: “อัลลอฮ์มิได้ทรงกำหนดหน้าที่ผู้ใดเหนือขีดความสามารถของเขา”[8]
ฉัน: เธอจะขึ้นขี่พาหนะซ้อนท้ายฉันหรือเปล่า?
สตรี: “หากชั้นฟ้าและผืนดินมีพระเจ้าสององค์ไซร้ ย่อมเสื่อมเสียเป็นแน่แท้”[9]
ฉันจึงลงจากอูฐและให้นางขึ้นขี่แทน นางรำพันว่า “มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิของพระผู้ทรงสยบ(พาหนะ)นี้แก่เรา”[10]
เราเดินมาจนถึงกองคาราวานของนาง ฉันจึงถามว่า “เธอรู้จักใครหรือไม่?”
สตรี: “โอ้ดาวูด เราได้แต่งตั้งเจ้าเป็นตัวแทนบนหน้าแผ่นดิน”[11], “และมุฮัมมัดคือศาสนทูตของพระองค์มิไช่อื่นใด”[12], “โอ้ยะฮ์ยา จงรับคัมภีร์”[13], “โอ้มูซา ข้านี้คือพระเจ้า”[14]
ฉันจึงเรียกขานทั้งสี่ชื่อดังกล่าว ปรากฏว่ามีเด็กหนุ่มสี่คนรีบเดินมารับสตรีแปลกหน้าคนนั้น! ฉันจึงถามว่า: หนุ่มสี่คนนี้เป็นอะไรกับเธอหรือ?”
สตรี: “ทรัพย์สินและบุตรคือเครื่องประดับของชีวิตในโลกนี้”[15]
นางได้กล่าวแก่เด็กหนุ่มว่า “โอ้พ่อจ๋า จ้างเขาเถิด แท้จริงผู้ที่เหมาะแก่การจ้างมากที่สุดคือผู้ที่แข็งแรงและซื่อสัตย์”[16]
พวกเขาจึงได้มอบของกำนัลแก่ฉัน นางพูดขึ้นว่า: “และอัลลอฮ์จะเพิ่มพูนแก่ผู้ที่พระองค์เห็นควร”[17]
ลูกชายของนางจึงเพิ่มของกำนัลให้ฉัน ฉันจึงถามลูกๆของนางว่านางเป็นใครกันแน่? พวกเขาตอบว่า แม่ของเราคือฟิฎเฎาะฮ์ ทาสีของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ ยี่สิบปีมาแล้วที่นางตอบทุกคำถามด้วยกุรอานเท่านั้น”[18]
เป็นไปได้ว่านางอาจมีชีวิตอยู่และสนทนาด้วยกุรอานหลังเหตุการณ์นี้อีกยี่สิบปี อย่างไรก็ดี ประเด็นที่ว่านางสนทนาด้วยกุรอานถึงสี่สิบปีคงต้องได้รับการค้นคว้าเพิ่มเติม ซึ่งคงไม่สะดวก ณ ที่นี้.
[1] ซุครุฟ, 89
[2] ซุมัร, 37
[3] อัลอะอ์รอฟ, 31
[4] ก่อศ็อศ, 44
[5] อาลิ อิมรอน, 97
[6] กอฟ, 38
[7] อันบิยาอ์, 8
[8] บะเกาะเราะฮ์, 286
[9] อันบิยาอ์, 22
[10] ซุครุฟ, 13
[11] ศอด, 26
[12] อาลิอิมรอน, 144
[13] มัรยัม, 12
[14] ก่อศ็อศ, 30
[15] อัลกะฮ์ฟิ, 46
[16] ก่อศ็อศ, 26
[17] บะเกาะเราะฮ์, 261
[18] หนังสือบิฮารุลอันวาร, เล่ม43 หน้า87:
“"أَبُو الْقَاسِمِ الْقُشَیْرِیُّ فِی کِتَابِهِ قَالَ بَعْضُهُمْ انْقَطَعْتُ فِی الْبَادِیَةِ عَنِ الْقَافِلَةِ فَوَجَدْتُ امْرَأَةً فَقُلْتُ لَهَا مَنْ أَنْتِ
فَقَالَتْ وَ قُلْ سَلَامٌ فَسَوْفَ تَعْلَمُونَ
فَسَلَّمْتُ عَلَیْهَا فَقُلْتُ مَا تَصْنَعِینَ هَاهُنَا
قَالَتْ مَنْ یَهْدِ اللَّهُ فَلَا مُضِلَّ لَهُ
فَقُلْتُ أَ مِنَ الْجِنِّ أَنْتِ أَمْ مِنَ الْإِنْسِ
قَالَتْ یا بَنِی آدَمَ خُذُوا زِینَتَکُمْ
فَقُلْتُ مِنْ أَیْنَ أَقْبَلْتِ
قَالَتْ یُنادَوْنَ مِنْ مَکانٍ بَعِیدٍ
َقُلْتُ أَیْنَ تَقْصِدِینَ
قَالَتْ وَ لِلَّهِ عَلَى النَّاسِ حِجُّ الْبَیْتِ
فَقُلْتُ مَتَى انْقَطَعْتِ
قَالَتْ وَ لَقَدْ خَلَقْنَا السَّماواتِ وَ الْأَرْضَ... فِی سِتَّةِ أَیَّامٍ
فَقُلْتُ أَ تَشْتَهِینَ طَعَاماً
فَقَالَتْ وَ ما جَعَلْناهُمْ جَسَداً لا یَأْکُلُونَ الطَّعامَ
فَأَطَعَمْتُهَا ثُمَّ قُلْتُ هَرْوِلِی وَ لَا تَعَجَّلِی
قَالَتْ لا یُکَلِّفُ اللَّهُ نَفْساً إِلَّا وُسْعَها
فَقُلْتُ أُرْدِفُکِ
فَقَالَتْ لَوْ کانَ فِیهِما آلِهَةٌ إِلَّا اللَّهُ لَفَسَدَتا
فَنَزَلْتُ فَأَرْکَبْتُهَا فَقَالَتْ سُبْحانَ الَّذِی سَخَّرَ لَنا هذا
فَلَمَّا أَدْرَکْنَا الْقَافِلَةَ قُلْتُ أَ لَکِ أَحَدٌ فِیهَا
قَالَتْ یا داوُدُ إِنَّا جَعَلْناکَ خَلِیفَةً فِی الْأَرْضِ وَ ما مُحَمَّدٌ إِلَّا رَسُولٌ یا یَحْیى خُذِ الْکِتابَ یا مُوسى إِنِّی أَنَا اللَّهُ
فَصِحْتُ بِهَذِهِ الْأَسْمَاءِ فَإِذَا أَنَا بِأَرْبَعَةِ شَبَابٍ مُتَوَجِّهَیْنِ نَحْوَهَا فَقُلْتُ مَنْ هَؤُلَاءِ مِنْکِ
قَالَتْ الْمالُ وَ الْبَنُونَ زِینَةُ الْحَیاةِ الدُّنْیا
فَلَمَّا أَتَوْهَا قَالَتْ یا أَبَتِ اسْتَأْجِرْهُ إِنَّ خَیْرَ مَنِ اسْتَأْجَرْتَ الْقَوِیُّ الْأَمِینُ
فَکَافُونِی بِأَشْیَاءَ فَقَالَتْ وَ اللَّهُ یُضاعِفُ لِمَنْ یَشاءُ
فَزَادُوا عَلَیَّ فَسَأَلْتُهُمْ عَنْهَا
فَقَالُوا هَذِهِ أُمُّنَا فِضَّةُ جَارِیَةُ الزَّهْرَاءِ ع مَا تَکَلَّمَتْ مُنْذُ عِشْرِینَ سَنَةً إِلَّا بِالْقُرْآنِ".”