เมื่อคำนึงถึงประเด็นต่อไปนี้จะทำให้เราค้นหาคำตอบได้ง่ายยิ่งขึ้น

1.     เราจะเห็นประโยคที่ว่า یملأ الارض قسطا و عدلا کما ملئت ظلما و جورا" ในหลาย ๆ ฮะดิษ[1] (ท่านจะเติมเต็มโลกทั้งผองด้วยความยุติธรรม แม้ในอดีตจะเคยคละคลุ้งไปด้วยความอยุติธรรม) สิ่งที่เราจะเข้าใจได้จากฮะดีษดังกล่าวก็คือ การปรากฏกายของท่าน ตลอดจนการที่โลกนี้จะเต็มไปด้วยความยุติธรรมนั้น จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อความอยุติธรรมได้ปกคลุมโลกนี้เสียก่อน นั่นหมายความว่า เป็นไปได้ว่าหลังจากที่การกดขี่ได้ปกคลุมโลกใบนี้แล้วหลายระยะเวลาหนึ่ง อิมามมะฮ์ดีจึงจะปรากฏกาย กล่าวคือ ฮะดีษดังกล่าวต้องการจะบอกว่าท่านเท่านั้นที่จะสามารถแผ่ความยุติธรรมและสยบการกดขี่ให้หมดไปจากโลก แต่ไม่ได้ต้องการที่จะระบุเป็นสัญญาณการปรากฏกายว่า ท่านจะปรากฏกายทันทีทันใดหลังจากที่โลกนี้เต็มไปด้วยการกดขี่แล้ว

2.     การที่โลกนี้จะคละคลุ้งไปด้วยการกดขี่นั้นถือเป็นปัจจัยเชิงเทียบเคียง กล่าวคือ ตั้งแต่มีมนุษย์ในโลกใบนี้ก็มีการกดขี่มาโดยตลอด มีผู้กดขี่และผู้ถูกกดขี่เสมอมา จึงไม่มีอะไรเป็นหลักประกันได้ว่าการกดขี่เพิ่งจะแพร่หลายสุดขีดในยุคสมัยนี้เท่านั้น โดยที่ก่อนหรือหลังจากนี้ การกดขี่ไม่มีทางจะรุนแรงไปกว่ายุคปัจจุบัน

3.     สมมติว่าการกดขี่ที่เกิดขึ้นบนโลกนี้เป็นสัญญาณของการปรากฏกายของอิมาม แต่ก็มิได้หมายความว่าปัจจัยดังกล่าวเป็นสาเหตุเดียวที่จะทำให้ท่านปรากฏกาย จะต้องมีสัญญาณและปัจจัยอื่นๆ อีกหลายประการที่มีผลในเรื่องนี้ ดังนั้นสัญญาณอื่น ๆ ก็จะต้องเกิดขึ้นให้ครบถ้วนเสียก่อน จึงจะทำให้ท่านปรากฏกาย[2]

ดังนั้นจึงไม่สามารถคาดหวังว่า ลำพังความอยุติธรรมมากมายที่พบเห็นอยู่ในปัจจุบันจะเป็นสาเหตุเดียวที่จะทำให้ท่านปรากฏกายในปัจจุบัน แม้ว่าฮะดีษต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นนี้จะรณรงค์ให้เรารอคอยท่านตลอดเวลา และดุอาอ์เพื่อให้ท่านปรากฏกายเมื่อสัญญาณต่างๆครบถ้วนแล้ว